![]() |
หลวงพ่อหิ่ม วัดบางพระ นครปฐม |
หลวงพ่อหิ่ม วัดบางพระ หรือ พระอุปัชฌาย์หิ่ม อดีตเจ้าอาวาสวัดบางพระ ตำบลบางแก้วฟ้า อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ท่านเป็นปรมาจารย์สักยันต์วัดบางพระ และพระอาจารย์ของหลวงพ่อเปิ่น
หลวงพ่อหิ่ม ท่านไม่มีประวัติบันทึกไว้ จึงไม่ทราบว่าท่านเกิดที่ไหน ปีอะไร รวมทั้งไม่ทราบชื่อโยมบิดาและโยมมารดาของท่าน
ทราบแค่เพียงว่า เมื่อท่านมีอายุครบบวช ท่านจึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดบางพระ ตำบลบางแก้วฟ้า อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ได้รับฉายาว่า "อินฺทโชโต" โดยมี
พระอาจารย์ทอง วัดละมุด เป็นพระอุปัชฌาย์
พระอธิการแพ วัดบางพระ เป็นพระคู่สวด
หลังจากที่อุปสมบทแล้ว ท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดบางพระเรื่อยมา เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยและคาถาอาคมกับพระอธิการแพ และหลวงพ่อทอง พระอุปัชฌาย์ จนสำเร็จวิชาต่างๆมากมาย
ปี พ.ศ. ๒๔๔๐ พระอธิการแพมรณภาพลง ชาวบ้านจึงพร้อมใจกันยกให้หลวงพ่อหิ่มรักษาการเจ้าอาวาส
ปี พ.ศ. ๒๔๔๑ หลังจากที่หลวงพ่อหิ่มรักษาการเจ้าอาวาสได้ ๑ ปี ทางคณะสงฆ์จึงแต่งตั้งให้หลวงพ่อหิ่มขึ้นเป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดทดแทนตำแหน่งที่ว่างลง
วัดบางพระ เป็นวัดราษฏร์ สังกัดมหานิกาย ตั้งอยู่เลขที่ ๑ หมู่ที่ 3 บ้านท่ามะดัน ตำบลบางแก้วฟ้า อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ ๓๑ ไร่ ๑ งาน ๖๐ ตารางวา
วัดบางพระ เดิมชื่อ วัดปากคลองบางพระ ตั้งเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๒๐ ในช่วงกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ขาดหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้างวัด กรมศิลปากรพิจารณาดินเผาของพระอุโบสถ อยู่ในสมัยอยุธยาตอนกลาง ส่วนพระประธานที่เป็นพระปฏิมากรหินทรายแดงจัดให้อยู่ในสมัยอโยธยาสุพรรณภูมิ (อู่ทอง)
วัดได้วิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๖๗ มีรายนามเจ้าอาวาสปกครองวัด เท่าที่ทราบคือ
๑. พระอธิการเฒ่า พ.ศ. ๒๓๓๐ - ๒๓๗๙
๒. พระอธิการวัชร์ พ.ศ. ๒๓๘๐ - ๒๔๑๙
๓. พระอธิการแพ พ.ศ. ๒๔๒๐ ถึง พ.ศ. ๒๔๔๐
๔. เจ้าอธิการหิ่ม อินฺทโชโต พ.ศ. ๒๔๔๑ - ๒๔๙๕
๕. พระอธิการทองอยู่ ปทุมรัตน พ.ศ. ๒๔๙๖ - ๒๕๑๖
๖. พระอุดมประชานาถ (เปิ่น ฐิตคุโน) พ.ศ. ๒๕๑๗ - ๒๔๔๕
๗. พระครูอนุกูลพิศาลกิจ (สำอางค์ ปภสฺสโร) พ.ศ. ๒๔๔๕ - ปัจจุบัน
หลังจากที่หลวงพ่อหิ่มได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส ท่านได้พัฒนาวัดอย่างสุดความสามารถ ทั้งการสร้างเสนาสนะและภาวรวัตถุต่างๆ จนวัดเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ
ปี พ.ศ. ๒๔๖๕ ท่านได้สร้างพระอุโบสถ กว้าง ๑๗ เมตร ยาว ๒๙.๕๐ เมตร และได้สร้างพระประธานปางมารวิชัย เป็นพระประธานประจำอุโบสถ ชาวบ้านเรียกกันว่า "หลวงพ่อโต"
ปี พ.ศ. ๒๔๗๐ ท่านได้สร้างรอยพระพุทธบาทจำลองหล่อด้วยโลหะ
ด้วยคุณงามความดีของหลวงพ่อหิ่ม ที่พัฒนาวัดจนเจริญรุ่งเรือง ทำให้ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะหมวดบางแก้วฟ้า (เจ้าคณะตำบล) และเป็นพระอุปัชฌาย์
หลวงพ่อหิ่ม ท่านมีชื่อเสียงในวิชาสักยันต์อันเกรียงไกรโด่งดังที่สุดแห่งล่มแม่น้ำนครชัยศรี หรือ แม่น้ำท่าจีน คนเฒ่าคนแก่เล่ากันว่า ท่านเป็นพระดุ เจ้าระเบียบ ถ้ามีใครส่งเสียงดัง ท่านจะตวาดจนหวาดผวาเงียบเสียงทันที
คนเมาเหล้าจะหายเมาเมื่อเจอท่าน เวลาหลวงพ่อจำวัดถ้ามีใครผ่านไปหน้ากุฏิข้างโบสถ์เก่าริมแม่น้ำ จะเดินตัวลีบเงียบไม่กล้าส่งเสียง (กุฏิหลังเก่าของท่าน ปัจจุบันรื้อแล้ว ทำเป็นโรงเก็บเรือพายแข่ง)
ที่วัดจะมีการแข่งเรือประเพณี สมัยหลวงปู่หิ่ม งานแข่งเรือยาวของวัดบางพระลือลั่นดังทั่วคุ้งน้ำนครชัยศรี มีเรือต่างถิ่นมาร่วมงานแข่งมากมาย เรือของวัดบางพระมีชื่อเสียงดังมากในระดับเรือยาว ๓๐ ฝีพาย
ฝีพายทุกคนโพกผ้ายันต์ที่หัว พายแข่งชนะจนไม่มีเรือลำใดสู้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรือสมานน้ำของวัดห้วยพลู หรือที่มีฝีพายมากกว่าประชาชน จากทั่วแถบลุ่มแม่น้ำท่าจีน มาชมการแข่งเรือแน่นสองฝั่งแม่น้ำ มีเรือพาย เรือแจว ที่จอดเต็มสองฟากตลิ่ง
ถนนหนทางสมัยนั้นยังไม่มี ส่วนใหญ่จะ สัญจรทางน้ำ มีคูคลองทะลุถึงกันตลอด ถ้าจะมานครปฐมต้องนั่งเรือมาที่วัดสัปทวน แล้วค่อยที่คลองต่อมานครปฐม หรือจะมาต่อรถไฟที่สถานีท่านานครชัยศรี ไปนครปฐมหรือขึ้นกรุงเทพฯ
ก่อนถึงงานประจำปีของวัดบางพระ หลวงพ่อหิ่ม ท่านจะให้ลูกศิษย์นำทรายมาเสก แล้วให้ลูกศิษย์ไปโปรยทั่วบริเวณงานวัด เมื่อถึงวันงานประจำปีจะมีประชาชนต่างถิ่นมาเที่ยวงานจำนวนมาก
หนุ่มสาวต่างถิ่นมาพบ เกี้ยวพาราสีกัน ธรรมดามักจะเกิดการเขม่นตีกันตามงานวัดที่เห็นอยู่ทั่วไป แต่ก็แปลกมากที่งานประจำปีของวัดบางพระสมัยนั้น จะไม่มีเรื่องราวทะเลาะวิวาทตีกันเลย
หลวงพ่อหิ่ม ท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้เช่น ผ้ายันต์ เสื้อยันต์ พระเนื้อดิน และเหรียญรุ่นแรก วัตถุมงคลของท่านเป็นที่ต้องการของทหาร ตำรวจ ประชาชน เพราะมีประสพการณ์ ยกตัวอย่างเช่น
เสื้อยันต์ของหลวงพ่อ ที่ปลุกเสกเสร็จ ท่านจะโยนลงในกองไฟตัวไหนไม่ไหม้ไฟ จึงจะใช้ได้ ใครที่ชอบสักยันต์ท่านก็จะสักยันต์ให้ด้วยตัวท่านเอง ยันต์สักที่โด่งดังในสมัยท่านมี ยันต์เก้ายอด แปดทิศ งบน้ำอ้อย และยันต์หอมเชียง
ใครที่ได้ยันต์นี้ไปแมลงวันไม่มีทางได้กินเลือด วิชาสักยันต์นี้หลวงพ่อหิ่ม ท่านได้ศึกษาจากตำราพุทธาคมไสยเวทย์ จากเจ้าคุณเฒ่าที่โด่งดังมากในช่วงปลายสมัยอยุธยา และสืบต่อไปยังหลวงพ่อเปิ่นวัดบางพระอีกด้วย
หลวงพ่อหิ่ม ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนสรรพวิชาจากพระอุปัชฌาย์ของท่าน พระอาจารย์ทอง วัดละมุด พระเกจิดังในสมัยนั้นจนหมดสิ้นทั้งในสายพระเวทย์มนต์คาถา การสักยันต์ ตำราสมุนไพรรักษาโรค
พระอาจารย์ทององค์นี้เป็นอาจารย์ของหลวงปู่บุญ ท่านได้รับการถ่ายทอดวิชาเมตตามหานิยม และตำรายาวาสนา จินดามณี อันโด่งดัง ถ้านับเนื่องแล้ว ท่านเป็นศิษย์ผู้น้องของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว
หลวงพ่อหิ่ม ปกครองวัดเรื่อยมาจนถึงแก่มรณภาพลงด้วยโรคชราเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๕ นับเวลาที่ปกครองวัดได้ ๕๔ ปี.
วัตถุมงคลของหลวงพ่อหิ่ม วัดบางพระ
เหรียญหลวงพ่อหิ่ม วัดบางพระ รุ่นแรก
สร้างขึ้นในปี พ.ศ.๒๔๗๐ เพื่อแจกให้กับผู้ที่บริจาคทรัพย์ให้กับทางวัด ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปเสมาแบบมีหูในตัว มีการสร้างด้วยเนื้อทองคำ เนื้อเงินเพียงชนิดเดียวเท่านั้น จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้
![]() |
เหรียญหลวงพ่อหิ่ม วัดบางพระ นครปฐม รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๔๗๐ เนื้อทองคำ ของคุณออม ท่าะกา |
![]() |
เหรียญหลวงพ่อหิ่ม วัดบางพระ นครปฐม รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๔๗๐ เนื้อเงิน ของคุณศรณรินศ์ อัครตันเสถียร |
![]() |
เหรียญหลวงพ่อหิ่ม วัดบางพระ นครปฐม รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๔๗๐ เนื้อทองแดง ของคุณแสบ นครปฐม |
ด้านหน้า จำลองเป็นรูปหลวงพ่อหิ่มนั่งสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ องค์หลวงพ่อห่มจีวรลดไหล่พาดผ้าสังฆาฏิ บนรูปหลวงพ่อมีอักขระขอมอ่านว่า "มิ" ใต้รูปหลวงพ่อมีอักขระขอมอ่านว่า "อิทโช"
ด้านหลัง มีอักขระยันต์
โดย : สารานุกรมพระเกจิแห่งแดนสยาม
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ประวัติและวัตถุมงคลหลวงพ่อนาค วัดห้วยจระเข้ นครปฐม เจ้าของพระเบญจภาคีพระปิดตาเนื้อเมฆพัดของไทย
- ประวัติและวัตถุมงคลหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก พระเกจิชื่อดังหนึ่งในพระเบญจภาคีเหรียญหล่อเมืองไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น