ประวัติและวัตถุมงคลหลวงพ่อนก วัดสังกะสี สมุทรปราการ ศิษย์เอกหลวงพ่อปาน วัดบางเหีัย
![]() |
หลวงพ่อนก วัดสังกะสี สมุทรปราการ |
หลวงพ่อนก วัดสังกะสี หรือ พระอธิการนก อดีตเจ้าอาวาสวัดนาคราช ตำบลบางพลีน้อย อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ท่านเป็นศิษย์เอกหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย เจ้าของเขี้ยวเสือแกะอันดับ ๑ ของเมืองไทย
หลวงพ่อนก พื้นเพท่านเป็นชาวบ้านตำบลบางกระเจ้า อำเภอนครเขื่อนขันธ์ (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นอำเภอพระประแดง) จังหวัดสมุทรปราการ ท่านเกิดปีระกา ตรงกับ วันเสาร์ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๒ ตรงกับเมื่อวันที่ ๒๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๓๙๒ ปีระกา โยมบิดาชื่อนายนวล โยมมารดาชื่อนางเคลือบ
เมื่อตอนท่านยังเด็ก โยมบิดาและโยมมารดาได้นำท่านไปฝากเรียนหนังสือขอม-ไทยที่วัดบางบ่อ กับพระอธิการโต เจ้าอาวาสวัดบางบ่อ
ปี พ.ศ. ๒๔๐๗ ท่านมีอายุครบ ๑๕ ปี โยมบิดาและโยมมารดาของท่าน จึงได้พาท่านไปบรรพชาบวชเป็นสามเณร ณ วัดกองแก้ว ตำบลบางยอ อำเภอนครเขื่อนขันธ์ จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนายนวลผู้เป็ยบิดา โดยมี
พระครูวิบูลย์ธรรมคุต(ต่วน) วัดกองแก้ว เป็นพระอุปัชฌาย์
เมื่อบรรพชาเป็นสามเณรแล้ว ท่านได้อยู่ร่ำเรียนศึกษาพระธรรมวินัย หนังสือขอม หนังสือไทย จนอายุครบบวช ในขณะนั้นนายนวลพ่อของท่านได้เสียชีวิตลงแล้ว แม่ของท่านจึงได้พาท่านไปบวชพระที่บ้านคลองด่าน
ปี พ.ศ. ๒๔๑๒ หลวงพ่อนก ท่านจึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดบางเหี้ย (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อมาเป็นวัดมงคลโคธาวาส) ตำบลคลองด่าน อำเภอบางเหี้ย (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อมาเป็นบางบ่อ) จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับฉายาว่า "ธมฺมโชติ" โดยมี
พระครูพิพัฒน์นิโรธกิจ (หลวงพ่อปาน) วัดบางเหี้ย เป็นพระอุปัชฌาย์
พระอาจารย์ทอง เป็นพระกรรมวาจาจารย์
พระอาจารย์เรือน วัดบางเหี้ย เป็นพระอนุสาวนาจารย์
หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านได้อยู๋จำพรรษาที่วัดบางเหี้ยเรื่อยมา เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย สมถะวิปัสสนากรรมฐาน และพระเวทวิทยาคมต่างๆ จากหลวงพ่อปาน ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์
ด้วยความที่ท่านเป็นคนที่มีสติปัญญาดี มีไหวพริบไวเฉลียวฉลาด และมีความจำที่แม่นยำ ท่านจึงศึกษาเล่าเรียนความรู้และวิทยาคมต่างๆ จนแตกฉาน
หลวงพ่อนกท่านได้ติดตามหลวงพ่อปาน ออกธุดงค์ไปด้วยเป็นประจำ ท่านจึงได้สอนวิธีทำเขี้ยวเสือให้กับหลวงพ่อนก จนมีความชำนาญและได้รับคำชมเชยจากหลวงพ่อปานว่า ทำได้ขลังและเหมือนท่านมากจริงๆ
หลวงพ่อนกท่านสามารถปลุกเสกเขี้ยวเสือให้กระโดดออกมาจากบาตรได้ เขี้ยวแกะเสือหลวงพ่อนกจึงได้มีชื่อเสียงเลื่องลือมากจนนักสะสมเครื่องรางอยากจับจองไว้เป็นเจ้าของ
บางทีหลวงพ่อปานท่านก็ให้หลวงพ่อนก ท่านจารอักขระเขี้ยวเสือให้ด้วย หลวงพ่อปานท่านไว้วางใจหลวงพ่อนกเป็นอย่างมาก ยกย่องให้หลวงพ่อนกเป็นศิษย์เอกของท่านเลยทีเดียว
ปี พ.ศ. ๒๔๓๐ หลวงพ่อนกก็ได้ปลีกตัวออกรุกข์มูลองค์เดียว ท่านได้เดินธุดงค์มาปักกลดอยู่ที่หมู่บ้านคลองพระยานาคราช ตำบลบางพลีน้อย อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ
ขุนสำแดง เดชา และภรรยานามว่า นางนุ่ม ได้มีจิตศรัทธาถวายที่ดินให้สร้างวัด แล้วนิมนต์หลวงพ่อนกให้อยู่ดูแลเป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดสังกะสี
วัดนาคราช เป็นวัดราษฏร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่เลขที่ ๑ บ้านคลองพระยานาคราช หมู่ที่ ๑ ตำบลบางพลีน้อย อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ ๑๖ ไร่ ๒ งาน
วัดนาคราช สร้างขึ้นเมื่อวันที่ ๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๓๐ โดยมีขุนสำแดง เดชา และภรรยาชื่อนุ่ม ได้บริจาคที่ดินให้สร้างวัดและเป็นที่ที่ธรณีสงฆ์เก็บผลประโยชน์บำรุงวัด รวม ๔๐ ไร่เศษ เดิมชาวบ้านนิยมเรียกนามวัดว่า วัดสังกะสี เนื่องด้วยหลังคาวัดมุงด้วยสังกะสี ซึ่งแตกกต่างจากวัดอื่นๆในพื้นที่
ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๔๔ ได้รับครั้งหลังเมื่อวันที่ ๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๘ เขต วิสุงคามสีมากว้าง ๑๘ เมตร ยาว ๒๔ เมตร วัดมีรายนามเจ้าอาวาสปกครองวัดดังนี้
๑. หลวงพ่อนก ธมฺมโชติ
๒. หลวงพ่อแก้ว
๓. หลวงพ่อสุข
๔. พระอธิการผิน
๕. พระครูพิพิธวิริยาร (หลวงพ่อเพล่)
๖. พระปลัดสมชาย ปภฺสโร
หลังจากที่หลวงพ่อนกได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส ท่านได้พัฒนาวัดอย่างสุดความสามารถ ทั้งการสร้างเสนาสนะและถาวรวัตถุต่างๆ จนวัดเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ
ปี พ.ศ. ๒๔๔๔ ท่านได้สร้างพระอุโบสถหลังแรกขึ้น โดยเป็นอาคารไม้ พร้อมทั้งขอพระราชทานวิสุงคามสีมาครั้งแรก เมื่อวันที่ ๑๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๔๔
ปี พ.ศ. ๒๔๕๓ ท่านได้สร้างศาลาการเปรียญ
ปี พ.ศ. ๒๔๗๕ ท่านได้เปิดโรงเรียนสอนพระปริยัติธรรม
หลวงพ่อนกปกครองวัดเรื่อยมาจนถึงแก่มรณภาพลงด้วยโรคชรา เมื่อวันพุธที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๕ นับรวมสิริอายุได้ ๘๓ ปี ๖๓ พรรษา.
วัตถุมงคลของหลวงพ่อนก วัดสังกะสี
เขี้ยวหมีแกะเสือหลวงพ่อนก วัดสังกะสี
สร้างขึ้นก่อนปี พ.ศ. ๒๔๗๕ เพื่อแจกศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อ ลักษณะเป็นเสือแกะเต็มตัว จารอักขระยันต์ตามตำหรับวิชาของหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย ตัวเขี้ยวท่านจัใช้เขี้ยวหมีซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของท่าน โดยจะว่าจ้างช่างแกะ ที่เป็นชาวบ้านในพื้นที่ช่วยแกะให้แต่หลวงพ่อจะจารอักขระยันต์เองทั้งหมด และเมื่อปลุกเสกจนเสือกระโดดได้แล้วจึงถือว่าสำเร็จ จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้
![]() |
เขี้ยวหมีแกะเสือหลวงพ่อนก วัดสังกะสี สมุทรปราการ |
![]() |
เขี้ยวหมีแกะเสือหลวงพ่อนก วัดสังกะสี สมุทรปราการ |
![]() |
เขี้ยวหมีแกะเสือหลวงพ่อนก วัดสังกะสี สมุทรปราการ |
![]() |
เขี้ยวหมีแกะเสือหลวงพ่อนก วัดสังกะสี สมุทรปราการ |
ด้านหน้า แกะเป็นรุปเสืออ้าปาก ตาลูกเต๋า จารอักขระตามตำหรับวิชาขอบงท่าน
ด้านหลัง มีอักขระยันต์จาร
เหรียญหลวงพ่อแก้วสารพัดนึก หลวงพ่อนก วัดสังกะสี
สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๖๗ เพื่อแจกให้กับผู้ที่บริจาคทรัพย์ให้กับทางวัด ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปหยดน้ำแบบมีหูในตัว มีการสร้างด้วยเนื้อเงิน และเนื้อทองแดงเพียงเท่านั้น จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้
![]() |
เหรียญหลวงพ่อแก้วสารพัดนึกหลวงพ่อนก วัดสังกะสี สมุทรปราการ รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๔๖๗ เนื้อทองแดง |
ด้านหน้า เป็นรูปพระพุทธรูปประทับนั่งบนฐานบัวคว่ำบัวหงายปางมารวิชัย องค์พระพาดผ้าสังฆาฏิ รอบรูปมีรัดประคต ข้างรูปองค์พระมีอักขระยันต์อ่านได้ว่า "พุท โธ" รอบองค์พระมีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "หลวงพ่อแก้วสาพัดนึก"
ด้านหลัง มีอักขระยันต์
เหรียญหยดน้ำหลวงพ่อนก วัดสังกะสี รุ่นแรก
สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๗๓ เพื่อแจกให้กับผู้ที่บริจาคทรัพย์ให้กับทางวัด ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปหยดน้ำแบบมีหูในตัว มีการสร้างด้วยเนื้อเงิน และเนื้อทองแดงเพียงเท่านั้น จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้
![]() |
เหรียญหยดน้ำหลวงพ่อนก วัดสังกะสี สมุทรปราการ รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๔๗๓ เนื้อทองแดง |
ด้านหน้า เป็นรูปพระพุทธรูปประทับนั่งบนฐานบัวคว่ำบัวหงายปางมารวิชัย องค์พระพาดผ้าสังฆาฏิ รอบรูปมีรัดประคต ข้างรูปองค์พระมีอักขระยันต์ ใต้รูปองค์พระมีอักขระขอมอ่านได้ว่า "ธัมโชติ" ซึ่งคือฉายาของหลวงพ่อนก
ด้านหลัง มีอักขระยันต์ อ่านได้ว่า "นะ"
เหรียญหลวงพ่อนก วัดสังกะสี รุ่นแรก
สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๙๐ ในสมัยพระอธิการผิน เป็นเจ้าอาวาส เพื่อแจกให้กับผู้ที่บริจาคทรัพย์ให้กับทางวัด ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปสามเหลี่ยมแบบมีหูในตัว มีการสร้างด้วยเนื้อทองแดงเพียงชนิดเดียวเท่านั้น จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้
![]() |
เหรียญหลวงพ่อนก วัดสังกะสี สมุทรปราการ รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๔๙๐ เนื้อทองแดง |
ด้านหน้า เป็นรูปถ่ายหลวงพ่อนกนั่งเต็มองค์แบบมารวิชัย องค์หลวงพ่อห่มจีวรลดไหล่พาดผ้าสังฆาฏิมีรัดประคต ใต้รูปหลวงพ่อมีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "หลวงพ่อนก วัดนาคราช"
ด้านหลัง มีอักขระยันต์เฑาะห์ตรงกลาง ล้อมด้วยอักขระขอม อ่านได้ว่า "มะ อะ อุ"
โดย : สารานุกรมพระเกจิแห่งแดนสยาม
บทความที่เกี่ยวข้อง
***-[เป็นกำลังใจและสนับสนุนให้เราเขียนบทความดีๆ ด้วยการกดดูโฆษณาด้านล่างนะคะ]-***
ไม่มีความคิดเห็น