ประวัติและวัตถุมงคลหลวงพ่อช้าง วัดพระบรมธาตุ ชัยนาท
![]() |
ภาพถ่ายหลวงพ่อช้าง วัดพระบรมธาตุ ชัยนาท |
หลวงพ่อช้าง วัดพระบรมธาตุ หรือ พระอินทโมลีศรีบรมธาตุบริหารสุวิจารณ์สังฆปราโมกข์ (ช้าง อินทสรเถระ) อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุ ตำบลชัยนาท อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท
พระอินทโมลีศรีบรมธาตุบริหารสุวิจารณ์สังฆปราโมกข์ ท่านมีนามเดิมว่าช้าง พื้นเพท่านเป็นชาวบ้านคุ้งสำเภา อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท เกิดเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๘๕ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โยมบิดาชื่อนายโชติ โยมมารดาชื่อนางบัว ท่านเป็นบุตรคนโต มีร่างกายใหญ่โตแข็งแรง สุขภาพสมบูรณ์
บิดาจึงตั้งชื่อว่าช้าง ท่านเป็นคนที่มีอัธยาศัยดี มีเมตตากรุณามาตั้งแต่เป็นเด็ก การศึกษาเมื่ออายุได้ ๙ ขวบครอบครัวได้ย้ายไปอยู่ในท้องที่อำเภอเมือง โยมบิดาได้พาไปฝากให้ศึกษาเล่าเรียนอักขระขอมกับพระครูเมธังกร เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุฯ
ปี พ.ศ. ๒๓๙๘ ท่านมีอายุได้ ๑๓ ปี จึงได้บรรพชาเป็นสามเณร โดยมี พระครูเมธังกร เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านได้เริ่มเรียนภาษาบาลี เช่น คำภีร์มูลกัจจายธรรมบท และ มงคลทีปนีจนแตกฉานสามารถแปลจากภาษาบาลีเป็นภาษาไทยได้อย่างเชี่ยวชาญ
ปี พ.ศ. ๒๔๐๕ หลวงพ่อช้าง ท่านมีอายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ จึงได้ทำการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดพระบรมธาตุ ตำบลชัยนาท อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท ได้รับฉายาว่า "อินทสโร" โดยมี
พระครูเมธังกร (จู) วัดพระบรมธาตุฯ เป็นพระอุปัชฌาย์
พระครูอินทชาติวรญาณ (อินทร) เจ้าคณะแขวงมโนรมย์ เป็นพระกรรมวาจารย์
พระอธิการคง วัดบางกระพี้ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดพระบรมธาตุเรื่อยมา เพื่อศึกษาด้านคันถธุระ พระธรรมวินัย บทสวดมนต์ต่างๆ จนสำเร็จวิชาต่างๆมากมารย
ท่านจึงมุ่งทางด้านปฏิบัติวิปัสนากรรมฐาน โดยได้รับการถ่ายทอดหลักการปฏิบัติธรรมจากพระครูอินทชาติวรญาณ พร้อมทั้งเชี่ยวชาญด้านอิทธิปาฏิหารย์ เช่น เสกของหนักให้เบาเหมือนนุ่น ย่นระยะทางให้สั้นได้ เป็นต้น
ต่อมาหลวงพ่อช้างได้รับแต่งตั้งเป็นฐานานุกรมในพระครูเมธังกร (จู) เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุ นามว่า พระใบฏีกาช้าง
ปี พ.ศ. ๒๔๑๑ พระครูเมธังกรได้มรณภาพลง คณะสงฆ์จึงได้รับการแต่งตั้งให้หลวงพ่อช้างเป็นเจ้าอาวาสทดแทนตำแหน่งที่ว่างลง
วัดพระบรมธาตุ เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่เลขที่ ๑๐๖ ตำบลชัยนาท อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ ๓ ไร่ ๒ งาน ๒๔ ตารางวา
วัดพระบรมธาตุ เดิมมีนามว่า "วัดพระธาตุ" และมีนามเรียกอีกนามหนึ่งว่า "วัดหัว- เมือง" สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยขอมเรืองอํานาจอยู่แถบลุ่มแม่น้ําเจ้าพระยา
ภายในวัดมีสิ่งที่สําคัญที่สุดคือ พระเจดีย์พระบรมสารีริกธาตุ ที่มีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุอยู่ในองค์พระเจดีย์เป็นที่สําคัญ แต่ไม่ปรากฏนามผู้สร้าง มีแต่ตำนานกล่าวกัน ต่อๆ มาว่าองค์พระเจดีย์ได้สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช กษัตริย์แห่งอินเดีย มีโครงสร้างเป็นศิลาแลง
ครั้นสมัยสุโขทัยในรัชกาลที่ ๔ ตรงกับสมัยพระเจ้าลิไท ได้ทรงจัดการบำรุงและสมโภชพระบรมธาตุในสมัยอยุธยาในรัชกาลที่ ๑๖ สมัยพระมหาจักรพรรดิ เมื่อคราวข้าศึกมารุกรานบ้านเมือง ประชาชนเกิดการ ระส่ำระสาย วัดจึงถูกทอดทิ้ง ขาดการทะนุบํารุงได้ทรุดโทรมลงเป็นอันมาก
จนถึงปี พ.ศ. ๒๒๖๐ ตรงกับสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ รัชกาลที่ ๓๐ แห่งกรุงศรีอยุธยา ได้จัดการบูรณะปฏิสังขรณ์พระเจดีย์บรมธาตุ โดยได้รับการอุปถัมภ์จากสมเด็จพระติหมล พระเถระผู้ใหญ่แห่งกรุงศรีอยุธยา
ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ก็ได้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์เรื่อยมา ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๐ เนื้อที่กว้าง ๓๐ เมตร ยาว ๔๐ เมตร
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สถาปนาเป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร นับตั้งแต่วันที่ ๑๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๙ ตามประกาศลงวันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๙ มีรายนามเจ้าอาวาสปกครองวัดเท่าที่ทราบนาม คือ
๑. พระพุทธสรีระ ประมาณ พ.ศ. ๒๒๒๐ - ๒๒๓๐ สมัยอยุธยา
๒. พระอาจารย์ขั้น
๓. พระอาจารย์ป่า
๔. พระสมุห์เปรม
๕. พระครูเมธังกร (จู)
๖. พระอินทโมลี (ช้าง) พ.ศ. ๒๔๑๑ - ๒๔๖๐
๗. พระวินัยคํา ติสฺสเกร พ.ศ. ๒๔๖๔ - ๒๔๗๑
๘. พระชัยนาทมุนี (หรุ่น) พ.ศ. ๒๔๗๑ - ๒๔๘๕
๙. พระปลัดล่ำ รักษาการ พ.ศ. ๒๔๘๕ - ๒๔๙๕
๑๐. พระครูบริรักษ์บรมธาตุ พ.ศ. ๒๔๙๕ - ๒๕๐๙
๑๑. พระชัยโสภณ (บุญส่ง ภททาจาโร) พ.ศ. ๒๕๑๑ - ปัจจุบัน
หลังจากที่หลวงพ่อช้างได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส ท่านได้พัฒนาวัดอย่างสุดความสามารถ ทั้งการสร้างเสนาสนะและถาวรวัตถุต่างๆ จนวัดเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ
![]() |
ข่าวเลื่อนสมณศักดิ์หลวงพ่อช้าง วัดพระบรมธาตุ ชัยนาท |
ปี พ.ศ. ๒๔๔๓ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร มีพระราชทินนามว่า พระครูอินทโมฬี ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะเมืองชัยนาท ประกาศราชกิจจานุเบกษา วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๔๓ เล่ม ๑๗ หน้า ๔๙๒ พร้อมทั้งได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์อีกด้วย
ปี พ.ศ. ๒๔๕๔ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ขึ้นเป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่พระอินทโมลีศรีบรมธาตุบริหารสุวิจารณ์สังฆปาโมกข์ และได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะจังหวัดชัยนาท
ตลอดระยะเวลาที่หลวงพ่อช้างดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุ และเจ้าคณะอำเภอเมืองชัยนาท ท่านได้พัฒนาวัดโดยการบูรณะก่อสร้างกุฏิวิหาร และสนับสนุนการศึกษาตลอดมา
การปฏิบัติธรรมของท่านได้รับการยกย่องว่า เคร่งครัดในการปฏิบัติหน้าที่ ถือสันโดด ยึดมั่นในระเบียบวินัยกฎเกณฑ์สังฆาณัติคณะสงฆ์และประเพณี จนเป็นที่เกรงขามกันโดยทั่วไป
ตามคำบอกเล่าสืบต่อกันมาว่า ครั้งหนึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองบ้านเมืองคือเจ้าเมืองชัยนาทได้ไปตรวจราชการผ่านมา ขี่ม้ามาในเขตวัดกลับจากการตรวจเยี่ยม เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขราษฏรในเขตท้องที่เป็นเวลาเย็นแล้ว เข้ามาในเขตวัดไม่ได้ถอดหมวก พระอินทโมลีฯได้พบเข้า จึงเรียกตัวขึ้นไปบนกุฏิท่านเข้ามาในเขตวัดไม่เคารพสถานที่ พระอินทโมลีฯได้ใช้อาชญาวัด ใช้ไม้ตีเจ้าเมือง
พร้อมทั้งถามว่า เข้ามาในเขตวัดทำไมไม่ถอดหมวก เราเป็นเจ้าหน้าที่ทำเสียเอง เมื่อย่างเหยียบเข้ามาในเขตวัดแล้ว ต้องแสดงความเคารพ แล้วให้เจ้าเมืองกลับไป ต่อมานายอำเภอเมืองไปตรวจราชการมาตอนเย็น เข้ามาในบริเวณวัดไม่ถอดหมวก พระอินทโมลีฯก็เรียกขึ้นไปหาบนกุฏิ แล้วใช้อาญาวัดตีนายอำเภอเช่นกัน
สอบสวนแล้วให้กลับไป นายอำเภอไม่พอใจนำความเรื่องนี้ไปเล่าให้เจ้าเมืองฟัง ท่านเจ้าเมืองตอบกลับนายอำเภอว่า เรื่องนี้จะว่าแต่คุณเลย ผมเองก็โดนมาแล้ว เพราะขาดสติเราเป็นผู้นำ ท่านทำของท่านก็ถูกแล้ว ท่านลงอาญาก็ไม่หนักหนาสาหัสอะไร ต่อไปเราต้องควรระวังและต้องมีสติอยู่เสมอ เพราะเราเป็นผู้ปกครองเขา
ในสมัยนั้นมีอาญาวัด คนดื่มเหล้าเมาสุราเข้ามาใกล้เขตวัดแล้ว เงียบเสมือนคนดี พอออกจากเขตวัดแล้วเสียงดังถนนสามวาไม่พอจะเดิน
สมัยนั้นไม่ว่าโจรผู้ร้าย จะเคารพพระเห็นพระแล้วเลี่ยงทางยกมือไหว้ ประชาชนราษฏรทั่วๆไป ถือว่าวัดเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่มีใครมารบกวน ขายข้าวได้เกวียนละ ๑๘–๒๐ บาท พร้อมทั้งสร้อยแหวนของมีค่านำไปฝากวัดไว้จะไม่มีใครรบกวน
สมัยก่อนไม่มีธนาคารจึงอาศัยวัดเป็นที่พึ่ง มีสมบัติฝากวัดไว้ปลอดภัย เหตุการณ์ดังกล่าวมานี้เป็นที่กล่าวขานกันทั่วไปในสมัยนั้นวัดเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์และกฎหมายได้กำหนดให้มีอาญาวัดด้วย
หลวงพ่อช้าง ท่านได้เล่าเรียนศึกษา ได้รับการถ่ายทอดวิชาจากพระครูอินทชาติวรญาณทั้งด้านวิปัสสนากรรมฐานวิชาไสยศาสตร์ เวทย์มนต์คาถา วิธีปลุกเศก และอธิฐานจิตต่างๆ จนเป็นที่พอใจของอาจาย์แล้ว
ท่านก็ได้ทำหน้าที่พระอาจารย์สอนวิชาดั่งกล่าว จนมีคนมาขอเป็นศิษย์เพื่อศึกษากับท่านมากมาย และตัวท่านเองก็มีวิชาอาคมเคียงบ่าเคียงไหล่กับพระครูวิมลคุณากร (หลวงปู่ศุข ) วัดปากคลองมะขามเฒ่า อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท
ถึงกับคนเก่าๆของเมืองชัยนาทเล่าสืบกันมาว่าหลวงพ่อช้างกับหลวงปู่ศุขท่านชอบพอกัน แต่หลวงพ่อช้างท่านมีอายุมากกว่าเล็กน้อย มีวิชาด้วยกันทั้งคู่ เคยทดสอบวิชากัน เช่น หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าปลุกเศกใบไม้เป็นเสือสมิง หลวงพ่อช้าง วัดพระบรมธาตุฯ ปลุกเศกสร้างควายธนู ลองฤทธิ์กัน ต่างก็ทำอะไรกันไม่ได้หมายความว่ามีวิชาพอๆกันทั้งสององค์
![]() |
ข่าวมรณภาพหลวงพ่อช้าง วัดพระบรมธาตุ ชัยนาท |
จากคำบอกเล่าของ "หลวงตากุ๋ย" ที่บวชเมื่ออายุมากแล้ว และมรณภาพเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๐ อายุ ๘๙ ปี ท่านเล่าให้ฟังว่าเมื่อท่านเป็นเด็ก เป็นลูกศิษย์วัดพระบรมธาตุฯเด็กสมัยนั้นเป็นขี้กลากกันมาก รักษาไม่ค่อยหาย
ท่านเล่าว่าเด็กหลายคนพอเห็นหลวงพ่อช้างสรงน้ำบนกุฏิ ก็ชวนกันไปอยู่ใต้กุฏิ พอหลวงพ่อช้างสรงน้ำลงมาก็เอาหัวรับน้ำที่หลวงพ่อช้างสรงน้ำถูตามเนื้อตามตัว ปรากฏว่าขี้กลากหายกันหมดทุกคน
หลวงตากุ๋ยท่านเล่าให้ฟังอย่างนี้ก่อนที่จะมรณภาพ จะเป็นความขลังหรือความศักดิ์สิทธิ์ของท่านก็ไม่ทราบได้แม้แต่น้ำสรงของท่าน ทำให้โรคขี้กลากรักษาด้วยยาไม่หาย แต่พอได้น้ำที่ท่านสรงแล้ว รองรับมาถูเนื้อถูตัวก็หายกันหมดทุกคนพูดแล้วไม่น่าเชื่อแต่ก็เป็นไปแล้วตามคำบอกเล่า
หลวงพ่อช้าง ปกครองวัดเรื่อยมาจนถึงแก่กาลมรณภาพด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ ๑๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๕ นับรวมสิริอายุได้ ๘๐ ปี ๖๐ พรรษา.
วัตถุมงคลของหลวงพ่อช้าง วัดพระบรมธาตุ
เหรียญหลวงพ่อช้าง วัดพระบรมธาตุ รุ่นแรก
สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๖๕ เพื่อแจกในงานศพของหลวงพ่อ ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มข้างเลื่อยแบบมีหูในตัว เข้าใจกันว่าเหรียญได้รับการปลุกเสกจากหลวงพ่อศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า มีการสร้างด้วยเนื้อเงิน และเนื้อทองแดงเพียงเท่านั้น จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้
![]() |
เหรียญหลวงพ่อช้าง วัดพระบรมธาตุ ชัยนาท รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๔๖๕ เนื้อเงิน |
![]() |
เหรียญหลวงพ่อช้าง วัดพระบรมธาตุ ชัยนาท รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๔๖๕ เนื้อเงิน |
![]() |
เหรียญหลวงพ่อช้าง วัดพระบรมธาตุ ชัยนาท รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๔๖๕ เนื้อทองแดง |
![]() |
เหรียญหลวงพ่อช้าง วัดพระบรมธาตุ ชัยนาท รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๔๖๕ เนื้อทองแดง |
![]() |
เหรียญหลวงพ่อช้าง วัดพระบรมธาตุ ชัยนาท รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๔๖๕ เนื้อทองแดง |
ด้านหน้า จำลองเป็นรูปหลวงพ่อช้างนั่งเต็มองค์มือทั้ง ๒ ข้างจับที่หัวเข่า องค์หลวงพ่อห่มจีวรลดไหล่พาดผ้าสังฆาฏิมีรัดประคต ใต้รูปหลวงพ่อมีโบภายในโบมีภาษาขอม
ด้านหลัง มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "พระอิทรโมลี ศรีบรมธาตุบริหาร สุวิจาร ณ สังฆปาโมกช ๒๔๖๕"
โดย : สารานุกรมพระเกจิแห่งแดนสยาม
บทความที่เกี่ยวข้อง
***-[เป็นกำลังใจและสนับสนุนให้เราเขียนบทความดีๆ ด้วยการกดดูโฆษณาด้านล่างนะคะ]-***
ไม่มีความคิดเห็น