โฆษณาแนวนอน728*90

บทความใหม่

ประวัติและวัตถุมงคลหลวงพ่อชม วัดตลุก ชัยนาท พระเกจิที่เข้มขลัง

ภาพถ่ายหลวงพ่อชม วัดตลุก ชัยนาท
หลวงพ่อชม วัดตลุก ชัยนาท

         หลวงพ่อชม วัดตลุก หรือ พระครูธรรมวิทย์โสภณฑ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตลุก ท่านเกิดเมื่อวันเสาร์ เดือน ๘ ปีขาล พ.ศ.๒๔๔๕ ที่บ้านตลุก หมู่ ๒ ตำบลตลุก อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ท่านมีนามเดิมว่าชม พึ่งหอย โยมบิดาชื่อนายลอย พึ่งหอย โยมมารดาชื่อนางเขียน พึ่งหอย มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน ๗ คน คือ

         ๑. หลวงพ่อชม

         ๒. นาง ชื่น

         ๓. นาง จำปี

         ๔. นาย จำปา

         ๕. นาง ฉ่ำ

         ๖. นาง บุญ

         ๗. นาง สอิ้ง

         เมื่อวัยเด็กหลวงพ่อชมท่านเป็นเด็กที่มีความเฉลียวฉลาดกว่าเด็กทั่วไป โยมบิดาจึงได้พาท่านไปฝากเล่าเรียนกับพระครูสถิตย์ธรรมวัติ (หลวงพ่ออ่ำ) วัดอินทาราม(ตลุก) จนอายุท่านได้ ๑๕ ปี จึงลากลับไปช่วยโยมพ่อทำนาแต่เมื่อเวลาว่างจะไปปรณนิบัติ หลวงพ่ออ่ำ อยู่เสมอ 

         ปี พ.ศ. ๒๔๖๖ หลวงพ่อชมท่านมีอายุครบบวช ได้เข้ารับการอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดอินทาราม(ตลุก) ตำบลตลุก อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท โดยมี

         หลวงพ่ออ่ำ วัดตุลก เป็นอุปัชฌาย์

         พระใบฎีกาเป้า เป็นพระกรรมวาจาจารย์

         พระสมุห์เพ็ง เป็นพระอนุสาวนาจารย์

        เมื่ออุปสมบทแล้วหลวงพ่อชม ก็ได้อยู่จำพรรษาที่วัดตลุก และได้ศึกษาธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด 

         ปี พ.ศ. ๒๔๖๖ พรรษาแรกสอบได้นักธรรมตรี

         ปี พ.ศ. ๒๔๖๗ พรรษาที่ ๒ สอบได้นักธรรมโท

         ปี พ.ศ. ๒๔๖๘ พรรษาที่ ๓ ได้นักธรรมเอก

         จนหลวงพ่ออ่ำ เอ่ยชม ''ท่านชม มีความมานะดีถ้าบวชไม่สึกท่านจะแทนฉันได้'' 

         และเมื่อสอบได้นักธรรมเอกแล้ว ท่านได้เริ่มฝึกสมาธิและพลังจิตรกับหลวงพ่ออ่ำ โดยท่านเป็นศิษย์ผู้น้องของหลวงพ่อทรัพย์ ซึ่งอยู่ในอารามเดียวกัน จนเป็นที่พอใจของหลวงพ่ออ่ำ ท่านจึงเริ่มสอนเวมย์มนต์ต่างๆให้อย่างครบถ้วน

         หลวงพ่อชม ท่านเคยออกธุดงค์ไปทางแทบเมืองกาญ หาอาจารย์เพื่อร่ำเรียนไสยศาสตร์ และ นมัสการพระแท่นดงรัง พระเเท่นศิลาอาสน์ ตระเวนแถบชายแดนพม่า และพระพุทธบาทสระบุรี พร้อมกับบำเพ็ญกัมมัฎฐานควบคู่กัน

         โดยท่านผ่านทางบ้านเดิมบาง จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งสมัยนั้นถือเป็นดงโจร หลวงพ่อปักกรดอยู่ท้ายหมู่บ้าน ที่พวกโจรได้ยกเข้าปล้นหมู่บ้าน เสียงปืนดังเป็นข้าวตอกแตก บางลูกตกมาข้างกรดหลวงพ่อชม พอรุ่งเช้าชาวบ้านรีบเข้ามาดูที่กรดหลวงพ่อ คิดว่าท่านไม่รอดแล้ว

         แต่ปรากฎว่า ท่านไม่ได้เป็นอะไรเลย ชาวบ้านจึงรุมมาขอของดีจากท่าน แต่ท่านกลับบอกว่าท่านไม่มีอะไรให้ แต่บอกทุกคนว่าคนไม่ถึงที่ตาย ทำอย่างไรก็ไม่ตายหรอก แต่ถ้าถึงที่ถึงเวลาไม่มีใครหนีพ้น ขอให้ทุกคนหมั่นสวดมนต์ไหว้พระนึกถึงพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ทำความดีอย่าให้ขาด คุณพระจะคุ้มคลองท่านเอง

         ปี พ.ศ. ๒๔๗๖ เจ้าอธิการวัดศรีมงคลได้มรณภาพลง ทำให้ว่างเจ้าอาวาสลง ชาวบ้านก็นิมนต์หลวงพ่อชมให้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดศรีมงคล ตำบลหาดอาษา หลวงพ่อท่านดำรงค์ตำแหน่งเจ้าคณะตำบลอยู่ ๒ ปีเศษ จึงกลับไปรับตำแหน่งเจ้าคณะตำบลเขต ๑ ตำบลตลุก และจำพรรษาอยู่วัดตลุกเรื่อยมา 

         ปี พ.ศ. ๒๕๐๓ หลวงพ่อชมท่านได้ไปศึกษาวิชา กัมมัฎฐานอย่างจริงจังกับอาจารย์พม่า ที่สำนักวัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ หลวงพ่อชมท่านเป็นภิกษุรูปเดียวที่มาจากชัยนาท รวมกับพระภิกษุสามเณรอีก ๔๐ รูป หลังจากหลวงพ่อบำเพ็ญอยู่ ๔ เดือน ท่านก็สำเร็จการบำเพ็ญกัมมัฎฐานขั้นสูงสุด รองเป็นอันดับสองจากสามเณรรูปหนึ่ง สำหรับการบำเพ็ญกัมมัฎฐานในรุ่นนั้น

         เมื่อท่านกลับมาจำพรรษาที่วัด ต่างก็มีลูกศิษย์ลูกหามาหาท่านมากมายจนเต็มวัด ซึ่งท่านก็สร้างศาลากัมมัฎฐานอยู่ด้านข้างวัด เพื่อต้อนรับศิษย์มาจากหลายๆที่ หลวงพ่อชมท่านแสดงการนั่งกัมมัฎฐาน กล่าวคือ เมื่อจิตเข้าระดับสมาธิ จะผลักให้ล้มหรือใช้ของแหลมคมก็ไม่ระคายผิวหนังเลย

         ปี พ.ศ. ๒๕๐๗ หลวงพ่อชม ก็ได้รับสมณศักดิ์ที่ "พระครูธรรมวิทย์โสภณ" หลวงพ่อท่านได้ชื่อว่า "พระผู้ให้" โดยท่านทำการก่อสร้างเสนาสนะ ถนนใหญ่เข้าวัด กำแพงวัด และ สะพาน เหตุที่หลวงพ่อมีสมญาว่า "พระผู้ให้" นั้น โดยหลวงพ่อมีความเชื่อถือจากศิษยานุศิษย์ว่า หากท่านใบ้หวยแล้ว ทุกคนจะร่ำรวยมหาศาล เพราะหลวงพ่อใบ้หวยแม่นมาก

         เครื่องรางของขลังของหลวงพ่อชม ซึ่งได้ศึกษามาจากหลวงพ่ออ่ำและคณาจารย์หลายท่าน วัตถุมงคลของท่านมีให้เลือกมากมายหลายด้าน เช่น เมตตามหานิยม แคล้วคลาด คงกระพัน ซึ่งโด่งดังไปทุกแห่ง นับตั้งแต่สงครามเกาหลี สงครามเวียดนาม และยุทธภูมิเหี้ยมในลาว ประสบการณ์วัตถุมงคลของท่านต่างมีมากมาย

         มีเรื่องเล่าของนายอำนวย เที่ยงประสาท อยู่บ้าน หมู่ ๒ ตำบลหาดอาษา ขับรถไถไปทำไร่ที่บ้านบุเรง อำเภอตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์ ได้ถูกรถบรรทุกพุ่งชน รถไถกระเด็นขาดครึ่ง รถบรรทุกหน้าหม้อแหลกลาน คนขับบาดเจ็บปางตาย นายอำนวย ถูกชนกระเด็นเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง แต่ผิวหนังไม่มีรอยบาดแผลใดๆ ชาวบ้านเห็นเหตุการณ์คิดว่าบี้แบนไปแล้ว โดยนายอำนวยได้แขวนรูปหล่อหลวงพ่อชมเนื้อตะกั่วไว้ที่คอนั้นเอง

         อีกเรื่องเป็นของนายสำราญ ดีเหมือน บ้านอยู่ใต้เขื่อนเจ้าพระยา ไปทำไร่อยู่ที่ อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพรชบูรณ์ ถูกคู่อริจ่อยิงด้วยปืนลูกซองยาว กระสุนเจาะเสื้อเป็นรู ๙ แห่ง แต่ไม่ระคายผิวหนังเลย เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ได้รับแจ้ง จึงทราบว่านายสำราญแขวนเหรียญหลวงพ่อชมเนื้อทองแดงไว้เป็นประจำ ทำให้ชาวไร่แห่ไปบูชาเหรียญหลวงพ่อชมกันที่วัด

         นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าของนายไฉน ทองวิโรจน์ อยู่บ้านริมคลองบางโพ มักชอบแขวนรูปถ่ายหลวงพ่อชม วันนั้นที่วัดตลุกมีหนังกลางแปลง ทางวัดจัดฉายเพื่อฉลองการสร้างสะพานเพื่อเป็นสาธารณะประโยชน์แก่ประชาชน ขณะที่หนังกำลังฉาย นายไฉนกับเพื่อนอีก ๔ คน ปะทะกับนักเลงทุ่งต่างถิ่น พอชกต่อยขึ้นชาวบ้านก็แตกฮือกันอลหม่าน

          นายไฉนเห็นคู่อริล้วงปืนออกมา จึงวิ่งหนีไปทางหลังจอฉาย คู่อริวิ่งตามไปใช้ปืนจ่อยิงระยะประชิดแต่ลั่นไกรไม่แตกสักนัด ขณะนั้นนายสวรรค์ คำวิชิต ผู้ใหญ่บ้านพร้อมพวกมรรคทายกเข้าระงับเหตุการณ์ ไล่กวดมือปืน นักเลงลูกทุ่งก็ใช้ปืนยิงปะทะป้องกันตัวไป ๒-๓ นัด แล้ววิ่งเลียบคันคลองเข้าป่าหนีไป ผู้ใหญ่บ้านได้สอบถามสาเหตุจาก นายไฉนกับเพื่อน ปรากฎว่า นายไฉนแขวนรูปหล่อรมดำ หลวงพ่อชม ติดตัวอยู่เสมอนั้นเอง

          นับว่าวัตถุมงคลของหลวงพ่อชม นั้นต่างมีประสบการณ์มากมาย ที่มีประสบกับตัวเองและมีการเล่าต่อกันมา ต่างก็รอดภัยอันตรายมามากมาย ซึ่งวัตถุมงคลของหลวงพ่อชมที่ท่านสร้างก็มีหลายแบบ ทั้ง รูปถ่าย, เหรียญ, ลูกอม, ตะกรุด, ผ้ายันต์, เสื้อยันต์, พระผง, สีผึ้ง, ธง, ด้ายมงคลต่างๆ, รักยม, นางกวัก, ต่างมีประสบการณ์และปาฎิหารย์คุ้มครองป้องกันภัย

         หลวงพ่อชม ท่านถึงแก่มรณะภาพลง เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม ปี พ.ศ.๒๕๒๕ นับรวมสิริอายุได้ ๘๐ ปี ๕๙ พรรษา.

วัตถุมงคลของหลวงพ่อชม วัดตลุก

         เหรียญหลวงพ่อชม วัดตลุก รุ่นแรก

         สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๐๘ เพื่อแจกให้กับผู้ที่บริจาคทรัพย์ให้กับทางวัด ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปอาร์มแบบมีหูในตัว มีการสร้างด้วยเนื้อทองเหลือง และเนื้ออัลปาก้า จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

เหรียญหลวงพ่อชม วัดตลุก ชัยนาท รุ่นแรก 2508 ทองเหลือง
เหรียญหลวงพ่อชม วัดตลุก รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๕๐๘ เนื้อทองเหลือง
เหรียญหลวงพ่อชม วัดตลุก ชัยนาท รุ่นแรก 2508 อัลปาก้า
เหรียญหลวงพ่อชม วัดตลุก รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๕๐๘ เนื้ออัลปาก้า

         ด้านหน้า เป็นรูปจำลองของหลวงพ่อเล็กครึ่งองค์ห่มลดไหล่ พาดผ้าสังฆาฏิ ขอบเหรียญมีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "หลวงพ่อเล็ก อายุ ๘๔ ปี พรรษา ๖๔"

         ด้านหลัง ตรงกลางเหรียญมีอักขระยันต์ มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "รุ่น ๑ พ.ศ. ๒๕๒๑ วัดบ้านหนอง ต.ตลุก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท" 

         รูปหล่อหลวงพ่อชม วัดตลุก รุ่นแรก

         สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๐๖ เพื่อแจกให้กับผู้ที่บริจาคทรัพย์ให้กับทางวัด ลักษณะเป็นรูปหล่อปั๊มขนาดเล็ก มีการสร้างด้วยเนื้อทองเหลือง จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

รูปหล่อหลวงพ่อชม วัดตลุก รุ่นแรก 2506
รูปหล่อหลวงพ่อชม วัดตลุก รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๕๐๖ เนื้อทองเหลืองรมดำ

         ด้านหน้า เป็นรูปจำลองของหลวงพ่อชมนั่งสมาธิบนฐานเขียง องค์หลวงพ่อห่มจีวรลดไหล่ พาดผ้าสังฆาฏิ ที่ฐานเขียงมีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "หลวงพ่อชม"

         ด้านหลัง มีรอยปั๊มตัดขอบและริ้วจีวรสวยงาม

         ด้านใต้ฐาน มีรอยเจาะแล้วอุดด้วยตะกั่ว

         รูปหล่อหลวงพ่อชม วัดตลุก รุ่นสอง

         สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๐ เพื่อแจกให้กับผู้ที่บริจาคทรัพย์ให้กับทางวัด ลักษณะเป็นรูปหล่อปั๊มขนาดเล็ก มีการสร้างด้วยเนื้อทองเหลือง จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

รูปหล่อหลวงพ่อชม วัดตลุก รุ่น2
รูปหล่อหลวงพ่อชม วัดตลุก รุ่นสอง ปี พ.ศ. ๒๕๑๐ เนื้อทองเหลืองรมดำ

         ด้านหน้า เป็นรูปจำลองของหลวงพ่อชมนั่งสมาธิบนฐานเขียง องค์หลวงพ่อห่มจีวรลดไหล่ พาดผ้าสังฆาฏิ ที่ฐานเขียงมีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "หลวงพ่อชม" ที่สังฆาฏิมีอักขระยันต์อ่านได้ว่า "พุท ธะ สัง มิ" 

         ด้านหลัง มีรอยปั๊มตัดขอบและริ้วจีวรสวยงาม ที่สังฆาฏิมีอักขระยันต์อ่านได้ว่า "อุ"

         ด้านใต้ฐาน มีรอยเจาะแล้วอุดด้วยตะกั่ว

 

โดย : สารานุกรมพระเกจิแห่งแดนสยาม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ไม่มีความคิดเห็น