ประวัติและวัตถุมงคลหลวงพ่อบุญมี วัดงิ้วราย นครปฐม

หลวงพ่อบุญมี วัดงิ้วราย นครปฐม

หลวงพ่อบุญมี วัดงิ้วราย หรือพระครูปุริมานุรักษ์ (บุญมี จนฺทสิริ สุขาบูรณ์) อดีตเจ้าคณะตำบลวัดสําโรง องค์การเผยแผ่อำเภอนครชัยศรี เจ้าอาวาสวัดงิ้วราย ตำบลงิ้วราย อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม

พระครูปุริมานุรักษ์ ท่านมีนามเดิมว่า บุญมี สุขาบูรณ์ พื้นเพท่านเป็นชาวหมู่บ้านคลองโยง ตำบลคลองโยง อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม เกิดเมื่อวันที่ ๔ กันยายน พ.ศ. ๒๔๕๐ ตรงกับวันอังคาร แรม ๒ ค่่ำ เดือน ๑๐ ปีมะเมีย โยมบิดาชื่อนายเฉย สุขาบูรณ์ โยมมารดาชื่อนางเอม สุขาบูรณ์ มีพี่น้องร่วมบิดา - มารดา เดียวกัน ๕ คนคือ

๑. นางสุน เดชกำแหง

๒. นายเต็ง สุขาบูรณ์

๓. พระครูปุริมานุรักษ์ (บุญมี สุขาบูรณ์)

๕. นางอ่อน พรหมสุรินทร์

๖. นางจำนงค์ สุขาบูรณ์

เมื่อปฐมวัยมีอาชีพทำนาอยู่กับบิดามารดาได้เข้ามาศึกษาหนังสือขอมที่วัดชัยชนะสงคราม (วัดตึก) แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร ได้รับการศึกษาพอสมควรแก่ฐานะ เพราะในสมัยนั้นการศึกษายังไม่เจริญและแพร่หลายเหมือนปัจจุบันนี้

ปี พ.ศ. ๒๔๗๐ หลวงพ่อบุญมี ท่านมีอายุ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ท่านจึงได้อุปสมบทในพระบวรพระพุทธศาสนา ณ พัทธสีมาวัดงิ้วราย ตำบลงิ้วราย อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม เมื่อวันที่ ๑๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๐ ตรงกับวันศุกร์ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๖ ปีเถาะ ได้รับฉายาว่า "จนฺทสิริ" โดยมี

พระครูปัจฉิมทิศบริหาร (เกิด รัตนะสิงห์) วัดงิ้วราย เป็นพระอุปัชฌาย์

พระอาจารย์หร่าย วัดงิ้วราย เป็นพระกรรมวาจาจารย์

พระปลัดบุญ วัดงิ้วราย เป็นพระอนุสาวนาจารย์

หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดงิ้วรายเรื่อยมา เพื่อศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมและ ศึกษาหาความรู้พิเศษในเรื่องตำรายาแผนโบราณ จนมีความรู้ความสามารถ ความชำนาญในเรื่องการรักษาพยาบาล

และให้การรักษาพยาบาลแก่ผู้เจ็บไข้ได้ป่วยด้วยความโอบอ้อมอารี มีเมตตาจิต โดยไม่เลือกชั้นและวรรณะ ใครเจ็บไข้ได้ป่วยไปหา ได้ให้คำแนะนำและจ่ายยาให้ หมั่นไปเยี่ยมเยียนไม่ละทิ้งคนไข้เป็นที่เคารพนับถือของประชาชนอย่างกว้างขวาง ได้รับขนานนามเป็นพิเศษจากลูกศิษย์ลูกหาว่า "หลวงเตี่ย"

ปี พ.ศ. ๒๔๗๕ สอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี

ปี พ.ศ. ๒๔๗๙ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระสมุห์ ฐานานุกรมของ พระครูปัจฉิมทิศบริหาร (เกิด รัตนะสิงห์) วัดงิ้วราย เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม สำนักเรียนวัดงิ้วราย

ปี พ.ศ. ๒๔๘๘ พระครูปัจฉิมทิศบริหาร (เกิด รัตนะสิงห์) ได้มรณภาพลง คณะสงฆ์จึงยกให้หลวงพ่อบุญมีรักษาการเจ้าอาวาส

ปี พ.ศ. ๒๔๘๙ หลังจากท่านพระครูปัจฉิมทิศบริหาร มรณภาพและได้พระราชทานเพลิงศพเรียบร้อยแล้ว บรรดาพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา พ่อค้าประชาชน ต่างสนับสนุนให้หลวงพ่อบุญมีดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดงิ้วราย

พระเดชพระคุณ พระปฐมนคราจารย์ ประธานคณะกรรมการสงฆ์จังหวัดนครปฐม จึงได้แต่งตั้งให้หลวงพ่อบุญมีดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดงิ้วราย เมื่อวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๙

วัดงิ้วราย เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่เลขที่ ๑๐๒ หมู่ที่ ๔ ตำบลงิ้วราย อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ ๑๐ ไร่ ๒ งาน ๑๖ ตารางวา

วัดงิ้วราย ตั้งเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๖๐ นามวัดตั้งตามสภาพแวดล้อม เนื่องจากบริเวณที่ตั้งวัดมีต้นงิ้วขึ้นอยู่จํานวนมาก ไม่ ปรากฏนามผู้สร้างและผู้บริจาคที่ดิน สันนิษฐานว่าเป็นวัดโบราณที่สร้างขึ้นตั้งแต่ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย (แต่กรมการศาสนาระบุว่าสร้างราว พ.ศ. ๒๓๖๐)

เพราะลักษณะอุโบสถเป็นแบบหลังคาชั้นเดียว มุงด้วยกระเบื้องดินเผา มีลักษณะคล้ายเรือสำเภา มีภาพลายนูนก่ออิฐถือปูนแบบโบราณ มีประตูเข้าออกด้านหน้าเพียงด้านเดียว มีหน้าต่างด้านละ ๒ บาน มีกำแพงแก้วล้อมรอบอุโบสถ

ปัจจุบันได้รื้ออุโบสถแล้วก่อสร้างเป็นวิหารเรือนแก้วขึ้นแทนที่ มีเพียงประตูหน้าด้านเดียว พระประธานอุโบสถหลังเก่าสร้างด้วยศิลาแลงประทับนั่งขัดสมาธิปางมารวิชัย มีพระพุทธรูปทำด้วยศิลาแลงล้อมรอบพระประธานอีก ๕ องค์

วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๒ มีรายนามเจ้าอาวาสปกครองวัดเท่าที่ทราบนามดังนี้

๑. พระยวง

๒. พระทรัพย์

๓. พระครูปัจฉิมทิศบริหาร (บุญเกิด รัตนสิงห์)

๔. พระครูปุริมานุรักษ์ (บุญมี จนฺทสิริ)

๕. พระสมปอง อาทิจฺจวํโส

๖. พระมหาสมบัติ ยสสฺสโม

๗. พระครูขันตยาภิรัต (เชื่อม ขนฺติธโร)

หลังจากที่หลวงพ่อบุญมีได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส ท่านได้พัฒนาวัดอย่างสุดความสามารถ ทั้งการสร้างเสนาสนะและถาวรวัตถุต่างๆ จนวัดเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ

ปี พ.ศ. ๒๔๙๐ สร้างหอฉัน (หอสวดมนต์) กว้าง ๑๖ เมตร ยาว ๒๔ เมตร

ปี พ.ศ. ๒๔๙๒ สอบไล่ได้นักธรรมชั้นไท

ปี พ.ศ. ๒๔๙๕ เป็นกรรมการตรวจประโยคธรรมสนามหลวง

ปี พ.ศ. ๒๔๙๗ เป็นพระอุปัชฌาย์

ปี พ.ศ. ๒๔๙๘ สร้างอุโบสถหลังใหม่

ปี พ.ศ. ๒๕๐๐ สอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก และท่านได้เลื่อนขึ้นเป็นพระครูธรรมธร ฐานานุกรมในพระเดชพระคุณ พระธรรมดิลก เจ้าคณะภาค ๗ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนฯ กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันนี้คือ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณสมเด็จพระสังฆราช

ข่าวเลื่อนสมณศักดิ์หลวงพ่อบุญมี วัดงิ้วราย นครปฐม

ปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ชั้นโท (จ.ป.ร.) ที่พระครูปุริมานุรักษ์ เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๐ ประกาศราชกิจจานุเบกษา วันที่ ๑๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๐ เล่ม ๗๔ ตอนที่ ๑๐๗

ปี พ.ศ. ๒๕๐๒ เป็นกรรมการสงฆ์อำเภอนครชัยศรี ตำแหน่งองค์การเผยแผ่การก่อสร้าง และในปีนั้น ท่านได้ร่วมกับประชาชน ย้ายกุฏิ และซ่อมแซม เพื่อให้เป็นระเบียบเรียบร้อย สร้างถนนหน้ากุฏิ และถนน บางสายในบริเวณวัด

ย้ายโรงเรียนประชาบาลหลังเก่าไปสร้างใหม่ ต้องสมทบทุนร่วมกับรัฐบาล ซื้อที่ดินที่มีเขตติดต่ออยู่กับวัดด้านตะวันออก เป็นเนื้อที่ประมาณ ๑,๐๐๐ ตารางวา ปัจจุบันคือ โรงเรียนวัดงิ้วราย(พินพิทยาคาร)

ปี พ.ศ. ๒๕๐๓ ซื้อที่ดินหน้าสถานีรถไฟวัดงิ้วราย ๑๒ ไร่ สร้างโรงเรียนมัธยมศึกษา เปิดเรียนเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๔ ปัจจุบันคือ โรงเรียนงิ้วรายบุญมีรังสฤษดิ์

ปี พ.ศ. ๒๕๑๔ สร้างโบสถ์น้อยขึ้นอีก ๑ หลัง เพื่อประดิษฐานบูรพาจารย์ที่หล่อไว้ ๒ รูป

ปี พ.ศ. ๒๕๑๕ เริ่มโครงการสร้างศาลาการเปรียญขึ้นใหม่แทนหลังเก่า ซึ่งชำรุดทรุดโทรม

หลวงพ่อบุญมีปกครองวัดเรื่อยมาจนถึงแก่มรณภาพลงด้วยโรคปอด เมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๕ เวลา ๑๔.๔๕ น. นับรวมสิริอายุได้ ๖๕ ปี ๔๕ พรรษา.

วัตถุมงคลของหลวงพ่อบุญมี วัดงิ้วราย

เหรียญหลวงพ่อบุญมี วัดงิ้วราย รุ่นแรก

สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๐๘ เพื่อแจกให้กับผู้ที่บริจาคทรัพย์ให้กับทางวัด ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มทรงเสมาแบบมีหูในตัว มีการสร้างด้วยเนื้ออัลปาก้า และเนื้อทองแดงเพียงเท่านั้น จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

เหรียญหลวงพ่อบุญมี วัดงิ้วราย นครปฐม รุ่นแรก 2508 ทองแดงกระไหล่ทอง

เหรียญหลวงพ่อบุญมี วัดงิ้วราย นครปฐม รุ่นแรก บล็อกหน้าแก่ ปี พ.ศ. ๒๕๐๘ เนื้อทองแดงกระไหล่ทอง

เหรียญหลวงพ่อบุญมี วัดงิ้วราย นครปฐม รุ่นแรก หน้าหนุ่ม 2508 อัลปาก้า

เหรียญหลวงพ่อบุญมี วัดงิ้วราย นครปฐม รุ่นแรก บล็อกหน้าหนุ่ม ปี พ.ศ. ๒๕๐๘ เนื้ออัลปาก้า

ด้านหน้า จำลองเป็นรูปหลวงพ่อบุญมีครึ่งองค์ห่มจีวรลดไหล่พาดผ้าสังฆาฏิ ใต้รูปหลวงพ่อมีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "หลวงพ่อบุญมี"

ด้านหลัง มีอักขระยันต์

เหรียญหลวงพ่อบุญมี วัดงิ้วราย รุ่นสอง

สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๐๘ เพื่อแจกในงานผูกพัทธสีมาของทางวัด ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปไข่แบบมีหูในตัว มีการสร้างด้วยเนื้ออัลปาก้าเพียงชนิดเดียวเท่านั้น จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้