โฆษณาแนวนอน728*90

บทความใหม่

ประวัติและวัตถุมงคลพระครูวิธุระสุตาคม หรือ หลวงพ่อก๋ำ วัดประตูสาร สุพรรณบุรี

ภาพถ่ายหลวงพ่อก่ำ วัดประตูสาร สุพรรณบุรี
หลวงพ่อก่ำ วัดประตูสาร สุพรรณบุรี

         หลวงพ่อก่ำ วัดประคูสาร หรือ พระครูวิธรสุตาคม อดีตเจ้าอาวาสวัดประตูสาร ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี

         พระครูวิธรสุตาคม ท่านมีนามเดิมว่า ก่ำ สุวรรณเนตร พื้นเพท่านเป็นชาวบ้านข้างวัดประตูสาร ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๒๓ ปีมะโรง โยมบิดาชื่อนายตา สุวรรณเนตร โยมมารดาชื่อนางทับทิม สุวรรณเนตร มีพี่น้อง ๔ คน คือ

         ๑. นางอ่ำ

         ๒. นายโก๋

         ๓. นางอ่อง สำราญสุข

         ๔. พะครูวิธุรสุตาคม(ก๋ำ)

         ปี พ.ศ. ๒๔๔๔ หลวงพ่อก่ำ มีอายุ ๒๒ ปี ท่านจึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดประตูสาร ตำบลรั้วใหญ่(ท่าพี่เลี้ยง) อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมี

         หลวงพ่อดี วัดประตูสาร เป็นพระอุปัชฌาย์

         หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดประตูสารเรื่อยมา เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย บทสวดมนต์ และคาถาอาคมต่างๆ กับพระอุปัชฌาย์

         ปี พ.ศ. ๒๔๕๑ หลังจากที่หลวงพ่อก่ำจำพรรษาได้ ๗ พรรษา พี่เขยท่านเจ็บหนัก โยมผู้ชายก็แก่มากแล้ว ท่านจึงต้องลาสิกขาบทไปดูแลเพื่อให้โยมผู้ชายได้อุปสมบท ทั้งๆ ที่ชาวบ้านร้านตลาดยังอาลัยถึงท่านอยู่ และตัวท่านเองก็ยังไม่อยากลาอุปสมบท 

         แต่เพื่อช่วยเหลือทางบ้าน และเปิดโอกาสให้โยมผู้ชายของท่านได้อุปสมบท ต่อมาพี่เขยของท่านหายเป็นปกติแล้ว และโยมผู้ชายของท่านได้อุปสมบทแล้ว ท่านจึงหมดซึ่งภาระทางโลกไปโดยปริยาย

         ปี พ.ศ. ๒๔๕๔ หลังจากที่หลวงพ่อก่ำท่านลาสิกขาไปดูแลบ้านอยู่ ๓ ปี ท่านจึงกลับมาอุปสมบทเป็นครั้งที่ ๒ ณ พัทธสีมาวัดประตูสาร ตำบลรั้วใหญ่(ท่าพี่เลี้ยง) อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ได้รับฉายาว่า "คงฺคสุวณฺโณ" โดยมี

         พระครูวิบูลย์เมธาจารย์(หลวงพ่อภู) วัดประตูสาร เป็นพระอุปัชฌาย์

         หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดประตูสารเรื่อยมา เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย บทสวดมนต์ และคาถาอาคมต่างๆ กับพระอุปัชฌาย์

         ปี พ.ศ. ๒๔๖๕ หลวงพ่อภูเจ้าอาวาสวัดได้มรณภาพลง ชาวบ้านและคณะสงฆ์จึงยกให้หลวงพ่อก่ำรักษาการเจ้าอาวาส

         ปี พ.ศ. ๒๔๗๑ หลังจากที่หลวงพ่อก่ำรักษาการเจ้าอาวาสวัดได้ ๖ ปี ทางคณะสงฆ์จึงได้แต่งตั้งให้หลวงพ่อก่ำขึ้นเป็นเจ้าอาวาสทดแทนตำแหน่งที่ว่างลง

         วัดประตูสาร เป็นวัดราษฏร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่เลขที่ ๒๒/๔ บ้านประตูสาร ถนนขุนช้าง ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี  ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ ๘๓ ตารางวา

         วัดประตูสาร ตั้งเมื่อปี พ.ศ. ๒๒๒๓ เป็นวัดเก่าแก่ ไม่ปรากฏนามผู้สร้างและผู้บริจาคที่ดิน สมัยโบราณพื้นที่ตั้งวัด เคยเป็นเพนียดคล้องช้าง ควาญช้างจะไล่ต้อนช้างมาจากป่าและลงน้ำที่ท่าน้ำบริเวณวัด จึงเป็นที่มาของชื่อวัด

         วัดได้รับการพัฒนาและบูรณะมาโดยตลอด ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปี พ.ศ. ๒๒๘๐ เขตวิสุงคามสีมา กว้าง ๔ เมตร ยาว ๑๘ เมตร มีรายนามเจ้าอาาสปกครองวัดเท่าที่ทราบนามคือ

         ๑. พระง่อย

         ๒. พระดี

         ๓. พระครูวิบูลย์เมธาจารย์(ภู)

         ๔. พระครูวิธุระสุตาคม (ก่ำ สุวรรณเนตร คงฺคสุวณฺโณ) พ.ศ. ๒๔๗๑ - ๒๕๐๕

         ๕. พระครูพิศิษฐ์สมณการ (ทอง จ้อยศรีเกตุ ญาณสิทฺโธ) พ.ศ. ๒๕๐๖ - ๒๕๔๕

         ๖. พระครูพิพัฒน์สุวรรณสาร (บุญช่วย ศรีโมรา ปวฑฺฒโน) พ.ศ. ๒๕๔๕ - ปัจจุบัน

         หลังจากที่หลวงพ่อก่ำได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส ท่านได้พัฒนาวัดอย่างสุดความสามารถ ทั้งการสร้างเสนาสนะและถาวรวัตถุต่างๆ จนวัดเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ อาทิเช่น 

         ปี พ.ศ. ๒๔๗๓ ได้รับตราตั้งเป็นเจ้าคณะหมวดรั้วใหญ่ หรือเจ้าคณะตำบลในปัจจุบัน

         ปี พ.ศ. ๒๔๗๖ ได้ปฏิสังขรณ์พระวิหารโดยรื้อของเก่าที่ทรุดโทรมออก แล้วสร้างใหม่เป็นตึกก่ออิฐหินปูนหลังคามุงกระเบื้องเคลือบให้เหมือนปัจจุบัน

         ปี พ.ศ. ๒๔๗๗ ได้รับตราตั้งเป็นอุปัชฌาย์

ข่าวเลื่อนสมณศักดิ์หลวงพ่อก่ำ วัดประตูสาร สุพรรณบุรี
ข่าวเลื่อนสมณศักดิ์หลวงพ่อก่ำ วัดประตูสาร สุพรรณบุรี

         ปี พ.ศ. ๒๔๗๙ ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ชั้นตรี ที่ "พระครูวิธุรสุตาคม" เมื่อวันที่ ๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ประกาศราชกิจจานุเบกษา วันที่ ๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ เล่ม ๕๓ หน้า ๔๐๐๑ 

         ปี พ.ศ. ๒๔๗๙ ได้ดัดแปลงโบสถ์เก่าซึ่งเดิมทีพาไลด้านหน้าเป็นเพิงลาด และหลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผา ให้พาไลด้านหน้าเป็นจั่วมีช่อฟ้าหน้าบันเปลี่ยนจากกระเบื้องดินเผาเป็นกระเบื้องเคลือบเพื่อให้เป็นแบบเดียวกันกันพระวิหารซึ่งอยู่ใกล้กัน

         ปี พ.ศ. ๒๔๙๕ ท่านได้สร้างศาลาการเปรียญ เป็นอาคารไม้ กว้าง ๑๖ เมตร ยาว ๓๖ เมตร เสาทุกต้นปิดด้วยลายทอง ยกเว้นเสาระเบียง

         ในด้านการศึกษา นับย้อนหลังไปประมาณ ๕๐-๖๐ ปี สมัยแรกที่หลวงพ่อก่ำท่านอุปสมบท วัดต่างจังหวัดหรือเรียกว่าวัดบ้านนอก ไม่มีการศึกษาธรรมวินัยเหมือนสมัยนี้ ท่านจึงไม่มีโอกาสเรียนกับเขา

         สมัยนั้นเพียงท่องหนังสือสวดมนต์ได้มากๆ ก็อยู่ในขั้นดีแล้ว และปรากฏว่าหลวงพ่อก่ำท่านท่องได้มากและแม่นยำอีกด้วย

        เมื่อท่านไม่มีโอกาสได้เล่าเรียน ท่านก็พยายามส่งเสริมให้ลูกหลานหรือศิษยานุศิษย์ ในการปกครองของท่านได้มีโอกาสเล่าเรียน จะเห็นได้อย่างชัดๆ เช่น 

         ในวัดของท่านเอง ได้จัดการเปิดโรงเรียนนักธรรม ให้มีการศึกษาพระธรรมวินัย ส่วนการศีกษาแผนกภาษาบาลีในวัดของท่านเองไม่มี ท่านกีพยายามรับพระรับเณรไว้ แล้วส่งให้ไปเรียนที่วัดสุวรรณภูมิ เสมอ

         จนปรากฏว่าสอบไล่ได้เป็นเปรียญ ๓ ประโยค ๔ ประโยคก็มี หลวงพ่อก่ำท่านเคยพูดเสมอว่า "เราโง่แล้ว ส่งเสริมคนอื่นให้ เขาฉลาดบ้าง จักได้เป็นบุญเป็นกุศลต่อไป" นับว่าท่านสนใจการศึกษาเป็นพิเศษ สมควรเป็นเนตติแบบอย่างของคนรุ่นหลังสืบไป

         คนเฒ่าคนแก่เล่าสืบต่อกันมาว่า หลวงพ่อก่ำท่านตื่นขึ้นครองผ้าในตอนเช้ามือนั่งสวดมนต์ภาวนาจนรุ่งอรุณแล้วกวาดวัดทุกวันมิได้ขาด เสียงของหลวงพ่อกังวานและแจ่มใสมาก มีอยู่ครั้งหนึ่งในคราวประชุมเจ้าอาวาสวัดต่างๆ ทั่วประเทศที่กรุงเทพ

         ท่านได้สวดมนต์ทำวัตรร่วมกับเจ้าอาวาสทั้งหลาย เสียงของท่านดังกลบเสียงพระองค์อื่นๆ หมด ทำให้เป็นจุดเด่นและเป็นที่สนใจของสมเด็จพระสังฆราชมาก 

         ยิ่งกว่านั้นหลวงพ่อยังมีมนต์ขลังในทางรักษาฝี ด้วยใช้วิธีตะปูตอกเสา เพียงรู้ชื่อผู้ป่วยและตำแหน่งที่เป็นฝีเท่านั้นท่านก็สามารถทำให้ฝียุบได้ภายใน ๓ วัน ๗ วัน 

         อีกทั้งท่านยังมีมนต์ขลังในทางทำน้ำมนต์อีกด้วย และมีญาณวิเศษสามารถล่วงรู้เหตุการณ์ต่าง ๆ ในอนาคตของคนที่ท่านรดน้ำมนต์ด้วยการดูจากเทียนที่ท่านหยดลงในน้ำมนต์

         ส่วนของขลังของหลวงพ่อมีตะกุดโทนในทางอยู่ยงคงกระพัน และยิ่งกว่านั้นท่านยังส่งเสริมการศึกษา เนื่องจากท่านไม่ได้เรียนหนังสือจึงให้การสนับสนุนคนอื่นเรียน 

         และถ้าผู้ใดได้รับพรจากท่านจะได้รับความเจริญทุกคนเพราะเป็นพรที่ศักดิ์สิทธ์มากหากผู้นั้นไม่ประพฤติเกเรจะได้ดีทุกคนถ้าใครถูกหลวงพ่อด่าว่า "อ้ายระยำ" คนผู้นั้นจะไร้โชควาสนาเป็นคนอาภัพไปจนตาย

         หลวงพ่อก่ำ ปกครองวัดเรื่อยมาจนถึงแก่มรณภาพลงด้วยโรคชรา ในวันพฤหัสบดีที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๕ นับรวมสิริอายุได้ ๘๓ ปี ๕๑ พรรษา.

วัตถุมงคลของหลวงพ่อก่ำ วัดประตูสาร

         เหรียญหลวงพ่อก่ำ วัดประตูสาร รุ่นแรก

         สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๐๐ เพื่อแจกให้กับผู้บริจาคทรัพย์ให้กับทางวัด ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มทรงพุ่มข้าวบิณฑ์แบบมีหูในตัว มีการสร้างด้วยเนื้อทองเหลืองเพียงชนิดเดียวเท่านั้น จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

เหรียญหลวงพ่อก่ำ วัดประตูสาร สุพรรณบุรี รุ่นแรก 2500 ทองเหลือง หูตัน
เหรียญหลวงพ่อก่ำ วัดประตูสาร สุพรรณบุรี รุ่นแรก (บล็อกหูตัน) ปี พ.ศ. ๒๕๐๐ เนื้อทองเหลือง
เหรียญหลวงพ่อก่ำ วัดประตูสาร สุพรรณบุรี รุ่นแรก 2500 ทองเหลือง
เหรียญหลวงพ่อก่ำ วัดประตูสาร สุพรรณบุรี รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๕๐๐ เนื้อทองเหลือง

         ด้านหน้า เป็นรูปจำลองของหลวงพ่อก่ำนั่งเต็มองค์มือจับที่หัวเข่า องค์หลวงพ่อห่มจีวรลดไหล่ พาดผ้าสังฆาฏิรัดประคต ใต้รูปหลวงพ่อมีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "พระครูวิธุรสุตาคม" 

         ด้านหลัง มีอักขระยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ ใต้อักขระยันต์มีอักขระเลขไทยเขียนว่า "๒๕๐๐" ซึ่งคือปีที่สร้างเหรียญ 

         เหรียญหลวงพ่อก่ำ วัดประตูสาร รุ่นสอง

         สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๕ โดยหลวงพ่อทองเจ้าอาวาสในสมัยนั้น เพื่อแจกให้กับผู้บริจาคทรัพย์ให้กับทางวัด ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มทรงพุ่มข้าวบิณฑ์แบบมีหูในตัว มีการสร้างด้วยเนื้อทองเหลืองเพียงชนิดเดียวเท่านั้น จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

เหรียญหลวงพ่อก่ำ วัดประตูสาร สุพรรณบุรี รุ่น 2 2515 ทองเหลือง
เหรียญหลวงพ่อก่ำ วัดประตูสาร สุพรรณบุรี รุ่นสอง ปี พ.ศ. ๒๕๑๕ เนื้อทองเหลือง

         ด้านหน้า เป็นรูปจำลองของหลวงพ่อก่ำนั่งเต็มองค์มือจับที่หัวเข่า องค์หลวงพ่อห่มจีวรลดไหล่ พาดผ้าสังฆาฏิรัดประคต ใต้รูปหลวงพ่อมีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "พระครูวิธุรสุตาคม" 

         ด้านหลัง มีอักขระยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ ใต้อักขระยันต์มีอักขระเลขไทยเขียนว่า "๒๕๑๕" ซึ่งคือปีที่สร้างเหรียญ 

         รูปหล่อปั๊มหลวงพ่อก่ำ วัดประตูสาร รุ่นแรก

         สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๕ โดยหลวงพ่อทองเจ้าอาวาสในสมัยนั้น เพื่อแจกให้กับผู้บริจาคทรัพย์ให้กับทางวัด ลักษณะเป็นรูปหล่อปั๊ม มีการสร้างด้วยเนื้อทองเหลืองเพียงชนิดเดียวเท่านั้น จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

รูปหล่อหลวงพ่อก่ำ วัดประตูสาร สุพรรณบุรี รุ่นแรก 2515 ทองเหลือง
รูปหล่อปํ๊มหลวงพ่อก่ำ วัดประตูสาร สุพรรณบุรี รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๕๑๕ เนื้อทองเหลือง

รูปหล่อหลวงพ่อก่ำ วัดประตูสาร สุพรรณบุรี รุ่นแรก 2515 ทองเหลือง-ข้าง
รูปหล่อปํ๊มหลวงพ่อก่ำ วัดประตูสาร สุพรรณบุรี รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๕๑๕ เนื้อทองเหลือง

         ด้านหน้า เป็นรูปจำลองของหลวงพ่อก่ำนั่งสมาธิเต็มองค์บนฐานเขียง องค์หลวงพ่อห่มจีวรลดไหล่พาดผ้าสังฆาฏิรัดประคต ที่ฐานเขียงมีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "หลวงพ่อก่ำ" 

         ด้านหลัง ที่ฐานเขียงมีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "พระครูวิธุรสุตาคม" ใต้ฐานมีรอยอุดกริ่งด้วยทองแดง

         ผ้ายันต์ธงหลวงพ่อก่ำ วัดประตูสาร รุ่นแรก

         สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๐๐ เพื่อแจกให้กับผู้บริจาคทรัพย์ให้กับทางวัด ลักษณะเป็นผ้ายันต์ทรงสามเหลี่ยมชายธง จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

ผ้ายันต์ธงหลวงพ่อก่ำ วัดประตูสาร สุพรรณบุรี รุ่นแรก 2500
ผ้ายันต์ธงหลวงพ่อก่ำ วัดประตูสาร สุพรรณบุรี รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๕๐๐

         ด้านหน้า เป็นรูปจำลองของหลวงพ่อก่ำนั่งเต็มองค์มือจับที่หัวเข่า องค์หลวงพ่อห่มจีวรลดไหล่ พาดผ้าสังฆาฏิรัดประคต รอบรูปหลวงพ่อมีอักขระยันต์

         ด้านหลัง เรียบไม่ปรากฏอักขระใดๆ


โดย : สารานุกรมพระเกจิแห่งแดนสยาม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ไม่มีความคิดเห็น