ประวัติและวัตถุมงคลหลวงปู่เพิ่ม วัดแค อยุธยา เจ้าของเหรียญรุ่นแรกที่หายาก

หลวงปู่เพิ่ม วัดแค อยุธยา

หลวงปู่เพิ่ม วัดแค หรือ พระอธิการเพิ่ม อดีตเจ้าอาวาสวัดแค ตำบลหัวรอ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

หลวงปู่เพิ่ม พื้นเพท่านเป็นชาวบ้านบ้านคลองทราย ตำบลหัวรอ อำเภอพระนครศรีอยุธยา เกิดเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๒๔ โยมบิดาชื่อพระชัยปริญญา เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยาในสมัยนั้น โยมมารดาชื่อนางเต่า

ตั้งแต่วัยเยาว์จนกระทั่งถึงวัยหนุ่ม ท่านเป็นคนเรียบๆ ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรมอันดี ไม่ชอบเที่ยวเตร่ ชอบแต่จะเล่าเรียนเขียนอ่าน และช่วยงานทางบ้าน ทั้งๆที่บ้านมีฐานะท่านเรียกได้ว่าร่ำรวย

ปี พ.ศ. ๒๔๔๔ ท่านมีอายุถึงเกณฑ์ทหาร ท่านก็ได้เข้าไปเป็นทหารรับใช้ชาติอยู่ ๗ ปี

ปี พ.ศ. ๒๔๕๑ ท่านได้ปลดจากทหาร ขณะนั้นท่านมีอายุได้ ๒๘ ปี จึงได้เข้าอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดสระเกศ (วัดภูเขาทอง) แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ ได้ฉายาว่า "ฐิติญาโน" โดยไม่ทราบนามพระอุปัชฌาย์

หลังอุปสมบทแล้ว ท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดภูเขาทองเรื่อยมา เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยและเรียนพระถาคาและภาษาบาลีจากสำนักวัดภูเขาทอง

ต่อมาตำแหน่งเจ้าอธิการวัดแคได้ว่างลง ทางคณะสงฆ์จึงมีคำสั่งแต่งตั้งให้หลวงปู่เพิ่มย้ายกลับมาจำพรรษาและดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดแคทดแทนตำแหน่งที่ว่างลง

วัดแค เป็นวัดราษฎร์ในสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย เป็นวัดมอญตั้งอยู่บริเวณทิศเหนือของเกาะลอยติดกับแม่น้ำป่าสักใกล้กับเกาะช่องลม ในตำบลหัวรอ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปัจจุบันมีพระอธิกาล ชัชวาล กัลยาโณ เป็นเจ้าอาวาส

วัดแค หรือตามป้ายหน้าวัดเขียนว่า วัดแค (ราชานุวาส) เป็นวัดในสมัยอยุธยาตอนกลาง ตั้งวัดเมื่อ พ.ศ. ๒๑๓๐ วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ ๑๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๘

เป็นวัดเก่าแก่สมัยอยุธยาที่มีชื่อเสียงจากประวัติของพระเกจิชื่อดัง หลวงปู่ทวด ที่เคยมาจำวัดอยู่ที่วัดแคเป็นวัดแรกในสมัยของสมเด็จพระเอกาทศรถ (ท่านเป็นคนอำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา เกิดเมื่อวันศุกร์ เดือนสี่ ปีมะโรง พ.ศ. ๒๑๒๕) เคยมาจำพรรษาอยู่ที่วัดนี้ (ราว ๙ ปี ระหว่างปี พ.ศ. ๒๑๔๘ – ๒๑๕๗) ขณะนั้นหลวงปู่ทวดมีอายุราว ๓๒ ปี

ทางวัดได้สร้างหุ่นหลวงปู่ทวดขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณริมน้ำหน้าวัด เป็นปางธุดงค์ วิหารหลวงปู่ทวด ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งกุฏิเดิมของหลวงปู่ทวด มีโบราณสถานร่วมสมัยหลงเหลือน้อยมาก

หลังจากที่หลวงปู่เพิ่มได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส ท่านได้สร้างเสนาสนะและถาวรวัตถุต่างๆ จนวัดเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ

หลวงปู่เพิ่ม ท่านเป็นเกจิยุคเก่า ที่ชอบเล่นแร่แปรธาตุ เก่งเรื่องคาถาอาคมเป็นอย่างยิ่ง ท่านเป็นพระที่สมถะเคร่งครัดอยู่ในพระธรรมวินัย กิจวัตรของท่านก็คือวิปัสนากรรมฐานทุกวัน

โดยภายในวัดมีต้นตะเคียนเต็มไปหมด และมีการลือกันว่ามีผีดุ บ้างก็เคยถูกหลอกมา วัดนี้เป็นที่สงบวิเวกเป็นที่พอใจของท่าน และท่านฉันอาหารเพียงมื้อเดียวเท่านั้น

ครั้งหนึ่ง ท่านนั่งสมาธิอยู่ในกุฏิ และถอดกายทิพย์ไปยืนอยู่ที่ศาลาท่าน้ำ ในตอนเช้ามืด มีแม่ค้าขายผักพายเรือผ่านมาเห็นท่านเข้า ก็ยกมือไหว้ท่านและเอ่ยถามท่านว่า "หลวงพ่อจะออกรับบาตรหรือเจ้าคะ"

ท่านก็ไม่ตอบอะไรแค่วักน้ำสาดหัวเรือ และโบกมือไล่ให้ไป แม่ค้าคนนั้นก็รีบไปตลาด ปรากฏว่าผักที่แกนำมาขาย ขายดีผักหมดในเวลารวดเร็ว ยังไม่สว่างเลยก็หมดแล้ว

จากนั้นแม่ค้าคนนั้น ก็เลยแวะซื้อหวย ก.ข. พอตอนสายหวยออกก็ถูกหวยอีก จึงซื้อของเพื่อจะนำมาถวายท่าน พอมาถึงวัดก็สอบถามถึงหลวงพ่อ พระในวัดก็บอกว่า หลวงพ่อยังไม่ได้ออกมาจากกุฏิเลย ตั้งแต่เช้า

แม่ค้าก็บอกว่าเมื่อเช้ามืดเจอหลวงพ่อที่ท่าน้ำ พระที่วัดก็ยืนยันว่า หลวงพ่อยังไม่ได้ออกจากกุฏิเลย และเห็นหลวงพ่อนั่งสมาธิอยู่ในกุฏิตั้งแต่ตี ๔ ยังไม่ได้ไปไหนเลย แม่ค้าจึงมองเข้าไปในกุฏิเห็นหลวงพ่อนั่งสมาธิหลับตาอยู่

แล้วหลวงพ่อก็ได้ลืมตาขึ้นและถามแม่ค้าว่า "ถูกหวยมาละซี" และหลวงพ่อก็บอกต่อว่า "ทีหลังอย่าไปเล่นหวยอีกนะ คราวนี้เรามีโชคก็ควรจะพอ ข้าวของที่เอามาก็ให้เอาไปฝากลูกหลานที่บ้านเถอะเอาก๋วยเตี๋ยวแห้งไว้ห่อเดียวพอ" แม่ค้าก็แปลกใจ เพราะแกได้ซื้อก๋วยเตี๋ยวแห้งมาถวายหลวงพ่อด้วยพอดี

อีกเรื่องหนึ่ง เกิดขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๙๔ นายจันซึ่งเป็นผู้อพยพมาจากเชียงราย มาเป็นกรรมกรสร้างทางรถไฟ ตั้งเพิงพักอยู่ใกล้ๆ กับวัดพนัญเชิง

วันหนึ่งได้ออกไปถ่ายทุกข์ในป่ารก ก็ไปเจองูจงอางกำลังเข้าคู่เกี้ยวกันอยู่ พองูเห็นนายจันก็คลายเกี้ยวเข้าไล่นายจันทันที นายจันวิ่งหนีกลับเพิงพัก งูทั้งสองตัวก็ยังไล่ติดตามมา คนงานคนอื่นๆ ที่เห็นก็ตกใจวิ่งหนีกันเป็นการใหญ่

นายจันวิ่งหนีเข้าไปในห้องเอาเสื้อคลุมหัว พองูเข้าไปถึงตัว กลับเลื้อยหนีออกมา นอกห้องและหายไปเลย พวกคนงานก็เข้าไปดูนายจัน ทุกคนก็งงกันพักใหญ่

เนื่องจากนายจันไม่ถูกงูกัดเลย ปรากฏว่า มีเหรียญหล่อหลวงปู่เพิ่ม ตกจากกระเป๋าเสื้อของนายจัน มาอยู่ข้างๆตัวนายจันเท่านั้น เรื่องนี้เป็นที่โจษจันกันมากในสมัยนั้น

หลวงปู่เพิ่ม ท่านคือสุดยอดเกจิแห่งเมืองกรุงเก่าอีกรูปหนึ่ง ผู้เปี่ยมด้วยเมตตาบารมี ท่านสร้างพระเครื่องไว้ไม่มาก ส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นเหรียญหล่อ พิมพ์ปรางค์ต่างๆ พระเนื้อดินก็มีสร้าง แต่พบเห็นน้อยมากในปัจจุบัน ซึ่งแต่ละอย่างนั้นล้วนมีประสพการณ์

หลวงปู่เพิ่ม ปกครองวัดเรื่อยมาจนถึงแก่มรณภาพลงด้วยโรคชราเมื่อ กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. ๒๕๐๔ นับรวมสิริอายุได้ ๘๐ ปี ๕๒ พรรษา.

วัตถุมงคลของหลวงปู่เพิ่ม วัดแค

เหรียญหล่อหลวงปู่เพิ่ม วัดแค พิมพ์นารายณ์ทรงครุฑ

สร้างขึ้นในราวปี พ.ศ. ๒๔๙๐ เพื่อแจกศิษยานุศิษย์ของท่าน ลักษณะเป็นเหรียญหล่อโบราณ โดยหลวงปู่ท่านจะแกะแม่พิมพ์เองและทำทุกอย่างด้วยตัวท่านเองทั้งหมด และเมื่อสร้างเสร็จแล้วท่านก็แจกฟรีให้กับศิษยานุศิษย์และผู้เคารพนับถือที่มาขอท่าน จนหมดไปในเวลาอันรวดเร็ว เหรียญสร้างด้วยเนื้อโลหะผสม จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

เหรียญหล่อหลวงปู่เพิ่ม วัดแค่ อยุธยา พิมพ์นารายณ์ทรงครุฑ 2490 โลหะผสม

เหรียญหล่อหลวงปู่เพิ่ม วัดแค อยุธยา พิมพ์นารายณ์ทรงครุฑ ปี พ.ศ. ๒๔๙๐ เนื้อโลหะผสม

เหรียญหล่อหลวงปู่เพิ่ม วัดแค่ อยุธยา พิมพ์นารายณ์ทรงครุฑ 2490 โลหะผสม-ข้าง

ด้านหน้า จำลองเป็นรูปพระนารายณ์ทรงครุฑ

ด้านหลัง มีอักขรยะนต์ตรีนิสิงเห มีอุณาโลม ๓ ตัวบนหัวยันต์

เหรียญหล่อหลวงปู่เพิ่ม วัดแค พิมพ์เปิดโลก

เหรียญหล่อหลวงปู่เพิ่ม วัดแค่ อยุธยา พิมพ์เปิดโลก 2490 โลหะผสม

เหรียญหล่อหลวงปู่เพิ่ม วัดแค่ อยุธยา พิมพ์เปิดโลก ปี พ.ศ. ๒๔๙๐ เนื้อโลหะผสม

ด้านหน้า จำลองเป็นพระพุทธปากเปิดโลก

ด้านหลัง มีอักขรยันต์ตรีนิสิงเห มีอุณาโลม ๓ ตัวบนหัวยันต์

เหรียญหลวงปู่เพิ่ม วัดแค รุ่นแรก

สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๙๘ เพื่อแจกศิษยานุศิษย์ของท่าน ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปดอกจิกแบบมีหูในตัว สร้างด้วยเนื้อเงิน และเนื้อทองแดงเพียงเท่านั้น เหรียญรุ่นนี้ที่ทันท่านมีเพียงบล็อกนิยมเท่านั้น ส่วนบล็อกอื่นๆสร้างเสริมและไม่ทันหลวงพ่อ จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้